วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2561

การอ่านนวนิยาย

การอ่านนวนิยาย


กันยายน ที่28 2561




ชื่อหนังสือ คิดแบบผึ้งหรือแมลงวัน

ชื่อผู้แต่ง happy day
 มมุติว่าเราจับผึ้งจำนวน 6 ตัว ใส่ในขวด และจับแมลงวัน 6 ตัว ใส่ในอีกขวด จากนั้นวางขวดนอนลง โดยหันก้นขวดไปยังหน้าต่างที่มีแสงสว่างกว่า เราจะพบว่า…กลุ่มผึ้งจะพยายามบินออกทางก้นขวด จนกระทั่งมันตายจากการขาดอาหารหรือว่าหมดแรง ในขณะที่แมลงวัน จะบินวนอยู่ในขวดชนไปชนมา แต่ก็จะค่อยๆทยอยบินหาทางออกมาจากขวดได้ จากฝั่งคอขวด ที่อยู่ตรงกันข้ามกับก้นขวดซึ่งหันไปทางหน้าต่าง ทำไมผลการทดลองจึงออกมาแบบนี้….
  นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ผึ้งเป็นสัตว์ที่ฉลาด มีองค์ความรู้ พวกมันรู้ว่าหากบินไปในทิศทางที่มีแสงสว่างจะเป็นทางออกจากรัง แต่เมื่อมันต้องมาอยู่ในขวด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผึ้งไม่เคยประสบมาก่อน มันก็ยังคงเชื่อในความคิดแบบเดิมๆไม่เปลี่ยนแปลง คือ ต้องบินออกทางแสงสว่างเท่านั้น แต่สำหรับแมลงวัน เป็นสัตว์ที่ไม่มีความคิดเป็นตรรกะอะไร ดังนั้นเมื่อมันถูกจับไว้ในขวด มันจึงบินชนผนังขวดแกะทางไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็พบกับทางออก

ข้อคิดที่ได้จากการอ่านจับใจความ
คนฉลาดก็สามารถที่จะพลาดพลั้งล้มเหลวได้ หากมีความรู้แต่ยึดติดกรอบเดิมๆ ในขณะที่ผู้ไม่รู้ หากทำในสิ่งที่แตกต่าง ก็อาจประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

ที่มาhttp://www.kwamru.com/300


สรุปจับใจความโดย

นางสาว เสาวณีย์ ชินวราพัฒน์
รหัสนิสิต 611071226
คณะ เศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ
สาขา การจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่



วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

เผยคนรุ่นใหม่กินน้อยลง แต่กลับอ้วนขึ้น

วันพฤหัสบดี 13 กันยายน 2561

  

ผยคนรุ่นใหม่กินน้อยลง แต่กลับอ้วนขึ้น😨

ผู้เขียนบทความ : Jina

ประเภทบทความ : สารคดี


เมื่อเทียบกับสมัย 30 ปีที่แล้ว คนในยุคปัจจุบันบริโภคแคลอรี่จากอาหารในแต่ละวันน้อยลงประมาณ 20% หรือเฉลี่ยราว 600 แคลอรี่ ที่หากคิดเป็นเมนูอาหาร ก็คงจะมาจากกินแฮมเบอร์เกอร์กับเฟรนช์ฟราย ตบท้ายด้วยเบียร์กินเนสส์อีกสัก 5 ลิตร (เยอะนะเนี่ย!... แต่คิดดูสิ ว่าพวกเขาเลิกกินมันได้)เฉพาะชาวอังกฤษก็มีจำนวนไม่น้อย ที่หันมากินซีเรียลเป็นอาหารเช้าแทนของทอดอย่างไส้กรอก เบคอน แฮม ดื่มลาเต้จากนมพร่องมันเนย กินเนื้อปลาแทนเนื้อแดง ฯลฯ แต่ไฉนเมื่อลองเทียบน้ำหนักเฉลี่ยแล้วคนอายุ 20 ปีในปัจจุบันมีน้ำหนักตัวมากกว่าคนอายุเท่ากันเมื่อ 30 ปีที่แล้วอยู่ตั้ง 7 กิโลกรัม ยิ่งหากเป็นคนอายุ 50 ล่ะก็ น้ำหนักก็มากกว่าแต่เก่าก่อนอยู่ตั้ง 14 กิโลกรัมเลยทีเดียว

และที่สำคัญที่สุดก็คือไลฟ์สไตล์ของคนเราเปลี่ยนไป เรานั่งทำงานกันมากขึ้นและนานขึ้น ไม่ค่อยได้ออกกำลังเดินไปไหน เมื่อกลับบ้านไปก็นั่งจมอยู่ที่หน้าโทรทัศน์หรือหน้าคอมพิวเตอร์อยู่ดี นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญ ว่าทั้ง ๆ ที่พยายามควบคุมอาหารแล้วแต่ก็ยังอ้วนขึ้นอยู่ดี ควบคุมอาหารแต่ไม่ออกกำลังกาย ส่วนที่กินเข้าไปแล้วก็ยังคงไปพอกพูนเป็นน้ำหนักส่วนเกินอยู่ดี ซึ่งสอดคล้องกับสถิติน้ำหนักคนอังกฤษวัยผู้ใหญ่ที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยคนละ 0.25 กิโลกรัมในทุก ๆ ปีนั่นเอง

รู้แบบนี้แล้วถึงคุณจะพยายามลดน้ำหนักมากเพียงใด แต่ถ้าคุณไม่หันมาออกกำลังกาย หรือยืดเส้น ยืดสาย เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ชีวิตตัวเองแล้วล่ะก็คุณก็ยังคงต้องมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นอยู่ดี


ความเห็นของผูเขียน ม่น่าเชื่อจริงๆ เลยค่ะ ว่าในยุคปัจจุบันนี้ถึงแม้นว่าเราจะใส่ใจดูแลสุขภาพดีแค่ไหน แต่น้ำหนักโดยเฉลี่ยกลับเพิ่มขึ้นตั้ง 14 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับคนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ไม่น่าเชื่อจริงๆ ใช่ไหมล่ะค่

ข้อคิด การรับประทานอาหารไม่ว่าจะ เช้า เทียง เย็น เราควรคำนึงถึงแคลอรี่ที่ได้รับแต่ละมื้อเพื่อคุมไขมัน น้ำตาล หรือแป้ง ในอาหารให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมะสม และหมั่นออกกำลังกายบ่อยๆเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง


สรุปใจความโดย : นางสาว เสาวณีย์ ชินวราพัฒน์  รหัสนิสิต 611071226 
                            คณะเศรษฐศาสตร์ สาขา การจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่
                            วันที่อ่านสรุป 9 กันยายน 2561 

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

วันอังคาร์ ที่4 กันยายน 2561

บทความเรื่อง คนรุ่นใหม่กินน้อยลง แต่กลับอ้วนขึ้น


มื่อเทียบกับสมัย 30 ปีที่แล้ว คนในยุคปัจจุบันบริโภคแคลอรี่จากอาหารในแต่ละวันน้อยลงประมาณ 20% หรือเฉลี่ยราว 600 แคลอรี่ ที่หากคิดเป็นเมนูอาหาร ก็คงจะมาจากกินแฮมเบอร์เกอร์กับเฟรนช์ฟราย ตบท้ายด้วยเบียร์กินเนสส์อีกสัก 5 ลิตร (เยอะนะเนี่ย!... แต่คิดดูสิ ว่าพวกเขาเลิกกินมันได้)

เฉพาะชาวอังกฤษก็มีจำนวนไม่น้อย ที่หันมากินซีเรียลเป็นอาหารเช้าแทนของทอดอย่างไส้กรอก เบคอน แฮม ดื่มลาเต้จากนมพร่องมันเนย กินเนื้อปลาแทนเนื้อแดง ฯลฯ แต่ไฉนเมื่อลองเทียบน้ำหนักเฉลี่ยแล้วคนอายุ 20 ปีในปัจจุบันมีน้ำหนักตัวมากกว่าคนอายุเท่ากันเมื่อ 30 ปีที่แล้วอยู่ตั้ง 7 กิโลกรัม ยิ่งหากเป็นคนอายุ 50 ล่ะก็ น้ำหนักก็มากกว่าแต่เก่าก่อนอยู่ตั้ง 14 กิโลกรัมเลยทีเดียว

ศาสตราจารย์เราชล กริฟฟิธ หนึ่งในทีมวิจัยได้ชี้แจงว่า เหตุที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะ แม้คนยุคใหม่จะใส่ใจคุณภาพมากขึ้น แต่ก็เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นยามที่พวกเขารับประทานอาหารในบ้านเท่านั้น จึงจะเลือกกินหรือไม่กินอะไรก็ได้ตามต้องการ แต่หากเป็นการใช้ชีวิตนอกบ้านที่ต้องรับประทานอาหารข้างนอกเมื่อไหร่ก็มีตัวเลือกอยู่ไม่มากนัก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่พ้นพวกเค้ก ของทอด และจังค์ฟู้ดต่าง ๆ อยู่ดี นอกจากนี้ อาหารหลาย ๆ อย่างในปัจจุบันมีน้ำตาลผสมลงไปปรุงแต่งรสชาติกันมากขึ้น

และที่สำคัญที่สุดก็คือไลฟ์สไตล์ของคนเราเปลี่ยนไป เรานั่งทำงานกันมากขึ้นและนานขึ้น ไม่ค่อยได้ออกกำลังเดินไปไหน เมื่อกลับบ้านไปก็นั่งจมอยู่ที่หน้าโทรทัศน์หรือหน้าคอมพิวเตอร์อยู่ดี นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญ ว่าทั้ง ๆ ที่พยายามควบคุมอาหารแล้วแต่ก็ยังอ้วนขึ้นอยู่ดี ควบคุมอาหารแต่ไม่ออกกำลังกาย ส่วนที่กินเข้าไปแล้วก็ยังคงไปพอกพูนเป็นน้ำหนักส่วนเกินอยู่ดี ซึ่งสอดคล้องกับสถิติน้ำหนักคนอังกฤษวัยผู้ใหญ่ที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยคนละ 0.25 กิโลกรัมในทุก ๆ ปีนั่นเอง


รู้แบบนี้แล้วถึงคุณจะพยายามลดน้ำหนักมากเพียงใด แต่ถ้าคุณไม่หันมาออกกำลังกาย หรือยืดเส้น ยืดสาย เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ชีวิตตัวเองแล้วล่ะก็คุณก็ยังคงต้องมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นอยู่ดี


ข้อคิด: การรับประทานอาหารไม่ว่าจะ เช้า เทียง เย็น เราควรคำนึงถึงแคลอรี่ที่ได้รับแต่ละมื้อเพื่อคุมไขมัน น้ำตาล หรือแป้ง ในอาหารให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมะสม และหมั่นออกกำลังกายบ่อยๆเพื่อสุขภาพของตัวเราเอง


สรุปใจความโดย นางสาว เสาวณีย์ ชินวราพัฒน์
รหัสนิสิต 611071226 คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ 
เอกการจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่
วันที่อ่านและสรุป 4กันยายน/2561

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ดิฉัน ชื่อ น.ส.เสาวณีย์ ชินวราพัฒน์ ชื่อเล่นชื่อ หมวย/ชิ๊ง
กำลังพักอยู่ที่ หอ ปาริชาต3
เกิดวันที่ 8 เมษายน พ.ศ 2542 อายุ19ปี ราศีมีน
บ้านเลขที่ 57/1 ม.7 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา